"บทความนี้มีการเฉลยเนื้อหาที่อาจจะทำให้ผู้อ่านเสียอรรถรสในการชมภาพยนตร์"

The Killer – คุณธรรมและไกปืน

โดย ...

รูปภาพประกอบจาก
http://imdb.com/title/tt0097202/

“ปืน...มันหยิบง่าย แต่วางยาก”

เมื่อใครบางคนสาวเท้าเข้ามาในวงจรบาปของนักฆ่าแล้ว ก็ยากที่จะถอยเท้า ถอนตัวออกห่าง...เช่นเดียวกับ “เจฟฟ์” นักฆ่าหนุ่มที่พยายามจะล้างมือจากวงการ แต่ไม่เคยทำสำเร็จสักที

เขารู้สึกผิดต่อสิ่งที่กระทำ และยิ่งรู้สึกผิดกว่า เมื่องานนั้นมีผลกระทบต่อคนบริสุทธิ์…

เจนนี่เป็นนักร้องสาวที่ถูกลูกหลงของเจฟฟ์ ดวงตาเธอได้รับบาดเจ็บ จนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเหมือนเดิม หนำซ้ำ ยิ่งนานมันยิ่งพร่ามัว เสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ

เจฟฟ์คอยติดตามดูแลเธออยู่ห่าง ๆ ทำตัวเหมือนบอดี้การ์ดในเงามืดอยู่นาน จนจำเป็นต้องออกหน้าเข้าไปช่วยเหลือเธออย่างใกล้ชิด มีโอกาสได้ดูแล สนิทสนม และเริ่มมีใจให้กัน ขณะที่ดวงตาของเจนนี่เริ่มแย่ลงจนเกือบจะบอดสนิท

เจฟฟ์ยอมรับงานฆ่าเจ้าพ่อใหญ่เป็นชิ้นสุดท้าย เพื่อนำเงินมาให้เจนนี่ไปรักษา เปลี่ยนกระจกตาที่ต่างประเทศ แต่กฎแห่งกรรมก็ทำหน้าที่ของมัน...เขาถูกหักหลัง ผู้จ้างวานสั่งคนมาเก็บเขาเพื่อเป็นการปิดปาก เจฟฟ์

พยายามรักษาชีวิต และนำเงินไปให้เจนนี่...แต่เขาจะทำสำเร็จหรือ?

ในตัวคนชั่วก็ยังมีความดี...ในตัวคนดีก็ยังมีกิเลสร้ายแอบซ่อน


รูปภาพประกอบจาก:
http://www.hkcinema.co.uk/Reviews/killer.html

ถามว่า...คนที่ทำอาชีพนักฆ่า นับเป็นคนชั่วหรือไม่...คำตอบคงไม่ยาก…

เมื่อคนเราทำบาปผิดครั้งแรก ความสำนึก ความละอายใจ จะบีบคั้นให้เกิดความกลัว มือไม้สั่นไม่กล้าทำผิด แต่พอทำบาปอย่างเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก จนสำนึกหลีกเร้น ความละอายใจเลือนหาย เหลือแต่ความเคยชิน

จิตใจเกาะอยู่กับบาป เห็นการฆ่าฟันเป็นเรื่องปกติ ไม่มีสำนึก จิตใจถูกพอกหนาด้วยโมหะอวิชชาจนมิดเม้น

เช่นนี้...จะมีแสงสว่างแห่งสำนึก คุณธรรมความดีใด ส่องเข้าไปถึง

เช่นนี้...ภพที่จิตของพวกเขาไปเกาะ จะเป็นสุคติหรือทุคติ

สำหรับเจฟฟ์...เขาไม่เคยรู้สึกยินดี พอใจในอาชีพตนเอง ไม่เคยเห็นการฆ่าฟันเป็นเรื่องปกติ เขาละอายใจอย่างยิ่งหากการทำงานของเขาพลาดพลั้งไปโดนคนบริสุทธิ์

เมื่อตอนที่เขาถูกมือปืนของผู้จ้างวานมาตามไล่ล่า แล้วกระสุนของพวกมันพลาดไปโดนเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่จนบาดเจ็บ เจฟฟ์ยอมเสี่ยงตาย เสี่ยงตำรวจ พาเด็กไปส่งโรงพยาบาล รอจนกระทั่งเห็นเด็กปลอดภัยจึงหนีจากมา

ถามว่า...สิ่งที่เขากระทำ นับเป็นคุณธรรม ความดีได้หรือไม่?

ขอให้ดูง่าย ๆ ว่าการที่เขาพาเด็กที่กำลังบาดเจ็บออกมาจากวงล้อมมือปืน ตำรวจ ทั้งที่ตนเองก็โดนไล่ล่าอยู่อย่างนั้น นับเป็นเรื่องง่ายดายหรือยากเย็น...เขาต้องใช้กำลังใจ ความกล้าแค่ไหน ที่จะไม่คิดห่วง

สวัสดิภาพ ความปลอดภัยของตนเอง เพื่อพาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ทั้งที่รู้ว่าต้องมีตำรวจตามมาจับแน่ ๆ

คุณธรรมเช่นนี้ อย่าว่าแต่จะมีในใจของนักฆ่า...แม้คนธรรมดาทั่วไปก็ยังหาได้ยาก!

แต่คุณธรรมก็คือคุณธรรม...กิเลสก็คือกิเลส

เช่นเดียวกับ...บุญคือบุญ บาปคือบาป...ต่างฝ่ายต่างให้ผล ตามเหตุที่กระทำ ใครก็ไม่อาจบิดเบือน หักล้าง

ด้วยคุณธรรม จิตใจอันระอุอุ่นของเจฟฟ์ เขาจึงได้รับความรักอันบริสุทธิ์ สัตย์ซื่อจากเจนนี่ ได้รับการนับถือ ยกย่องในน้ำใจ จากนายตำรวจที่ติดตามคดี จนยอมเป็นเพื่อนร่วมตายกับเขา ต่อสู้เหล่ามาเฟียที่ยกโขยงมาเช็คบิล


รูปภาพประกอบจาก:
http://www.hkcinema.co.uk/Reviews/killer.html

ทว่า...กรรมจากการฆ่าคน...แม้คนเหล่านั้นจะเป็นผู้ร้าย มาเฟียระดับเจ้าพ่อที่สมควรตาย... แต่การเข่นฆ่าก็คือการเข่นฆ่า...บาปจากการฆ่าฟัน จากการผิดศีลปาณาฯ ย่อมส่งผลอย่างไม่มีเงื่อนไข

เจฟฟ์เสียชีวิตจากการถล่มไล่ล่าของมาเฟีย…

เจนนี่เศร้าโศกร้องไห้แทบขาดใจ นายตำรวจเพื่อนร่วมตายคั่งแค้นอกแทบระเบิดที่ไม่อาจช่วยชีวิตเพื่อน...แต่...ทั้งหมดสมควรแก่เหตุแล้ว...กฎแห่งกรรมแสดงความยุติธรรมให้โลกได้เห็นอีกครั้ง

ความยุติธรรมนั้นยืนยันว่า...บุญคือบุญ บาปคือบาป...ไม่อาจหักล้างกันได้!

หลายคนคิดว่า...ถ้าทำบุญมาก ๆ ขยันสร้างกุศลเป็นประจำ แล้วผลบุญจะส่งให้ไปเกิดบนสวรรค์ มีความสุขกันเนิ่นนาน นับเป็นกัป ๆ แต่จะมีสักกี่คนฉุกคิด สงสัย…

นอกจากจะทำบุญแล้ว...คุณได้ “ละบาป” หรือยัง?

โดยเฉพาะบาป อกุศล ๕ อย่าง...ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดเท็จ ดื่มสุรา…

รู้หรือไม่...คุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์คือศีล ๕ หากขาดศีลห้า คุณก็ขาดพร่องความเป็นมนุษย์...กระทั่งโอกาสที่จะเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งยังยาก...อย่าเพิ่งพูดถึงสวรรค์!

“บุญ” ย่อมส่งผลให้เกิดสุข “บาป” ย่อมส่งผลให้เกิดทุกข์...ถ้าคนเราคิดแค่ “บำเพ็ญบุญ” โดยไม่ใส่ใจ “เพียรละบาป อกุศล” แล้วผลจะเป็นอย่างไร…

ยากจะคาดเดา...ถูกแล้ว!...ยากจะคาดเดา

ลองสังเกตตัวเองดูสักหนึ่งวัน...ตั้งแต่ตื่นนอนยันหลับ...คุณทำบาปกี่ครั้ง...ทำสิ่งที่เป็นบุญกี่ครั้ง?

ถ้าจะให้ละเอียดกว่านั้น ก็ลองสังเกตจิตใจตนเองตลอดทั้งวันว่า “อกุศล” เกิดกี่ครั้ง “กุศล” เกิดกี่ครั้ง...ทำอย่างนี้บ่อย ๆ แล้วคุณจะเห็นชัดเจนว่า วันหนึ่ง ๆ ใจคุณเกิดแต่ “อกุศล” แทบทั้งวัน...เดี๋ยวโทสะ

เดี๋ยวโมหะ เดี๋ยวราคะ เดี๋ยวโลภะ...วนเวียนอย่างนี้จนหาช่องว่างให้กุศลเกิดเกือบไม่ได้เลย…

อย่างนี้แล้ว...หากคุณไม่ยอมเพียรละบาป และหมั่นเจริญสติ คุณจะมั่นใจในบุญที่สร้างขึ้นมาได้สักแค่ไหน?

เชื่อใน “กรรมวิบาก” อย่างไม่ยอมนึกเข้าข้างตัวเองเถอะ...บุญเป็นบุญ ส่งผลจริง...บาปเป็นบาป ส่งผลจริง จิตใจคุณเกิดอกุศลมากกว่ากุศลก็เป็นเรื่องจริง...อย่าประมาท นิ่งนอนใจ

กรุยเส้นทางสายกุศลให้กว้างขวาง อบอุ่นมาก ๆ เข้า...พยายามตัด ลด ทำให้ถนนสายบาป อกุศลหดสั้นลงด้วยการรักษาศีล เจริญสติ สมาธิ ปัญญา

ยังมีลมหายใจ ย่อมมีเวลาเหลือ...อย่ามองข้ามการเจริญสติ ปัญญา ระหว่างวัน...อย่าประมาทต่อบาป อกุศลแม้เพียงเล็กน้อย...เมื่อถึงเวลาที่ต้องคืนลมหายใจให้โลก...จะได้ไม่มีใครมาเสียเวลาพร่ำบ่น

รำพัน ต่อหนึ่งชีวิตในภพมนุษย์ ที่ได้มาอย่างลำบาก ยากเย็น…

--------------------------------------------------