เกี่ยวกับภาษี การคำนวณภาษี ที่ต้องจ่าย

[golfreeze]

มา confirm คห.3 ครับ ว่าเสียภาษี 73,000 บาท เพราะตกฐาน 20% เต็มๆเลยครับ

รายได้ของเพื่อน จขกท. อยู่ที่ปีละ 65000 * 12 = 780,000
หักลดหย่อนให้ตัวเอง 30000 และค่าใช้จ่าย 60000 ก็จะเหลือฐานเงินได้สุทธิ = 780000 - 90000 = 690000

500000 แรกเสีย 35000 บาท
อีก 190000 ที่เหลือ เสียเรต 20% = 38000 บาท
เพราะฉะนั้น ต้องเสียภาษี 73000 บาท ครับ (เตรียมเงินไว้นะครับเดือนหน้าต้องเสียภาษีแล้ว ถ้าปีที่แล้วทำงานเต็มปี และไม่ได้ทำเรื่องหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ ก็จะเสียภาษีประมาณที่บอกเลยครับ)

แต่ถ้ามีโบนัส ก็เสียภาษีเพิ่มอีก 20% ของเงินโบนัสที่ได้รับด้วยครับ (เสียเพิ่มขึ้นจาก 73000 บาท นะครับ)

แต่ถ้ามีประกันสังคม ก็เอาเงินที่ส่งประกันสังคมมาลดหย่อนได้นิดหน่อยครับ ทั้งปีส่งเงินประกันสังคมไปเท่าไหร่ ก็หักไป 20% ของเงินที่ส่งครับ (เพราะเพื่อน จขกท. เสียภาษีในเรต 20% ครับ) หักจาก 73000 นะครับ

[golfreeze]

LTF คือ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว
การซื้อ LTF ก็คือการเอาเงินของเราไปฝากกองทุนเหล่านี้ ให้เล่นหุ้นแทนเราครับ

LTF ซื้อได้ 15% ของรายได้ก่อนหักลดหย่อนครับ (สูงสุดไม่เกิน 3 แสน แต่เพื่อน จขกท. ซื้อได้ไม่ถึง 3 แสนครับ เพราะมันจะเกิน 15% ของรายได้ ส่วนที่เกิน 15% นำมาใช้ลดหย่อนภาษีไม่ได้)

เงินได้ 780,000 บาท สามารถซื้อได้ = 780,000 * 0.15 = 117,000 บาท ครับ (ถ้ามีโบนัส ก็เอาโบนัสทั้งก้อนมาบวกกับ 780000 ก่อน แล้วเอายอดเงินได้รวมนั้น คูณด้วย 0.15 ก็จะเป็นยอดที่สามารถซื้อ LTF ได้สูงสุด ที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้)

ถ้าจะซื้อ LTF ต้องไปเปิดบัญชีกองทุนรวมที่ธนาคาร (อะไรก็ได้ สาขาไหนก็ได้) ก่อนครับ ส่วนตัวผมชอบของกรุงศรี และ TMB ครับ ผลตอบแทนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี (สูงกว่าค่าเฉลี่ย และเป็นอันดับต้นๆ) ส่วนแบงค์ใหญ่ๆอย่างไทยพาณิชย์ กสิกร กลับมีผลงานการบริหารกองทุนไม่ค่อยจะดี 

จริงๆแนะนำซื้อประกันชีวิตให้เต็ม 100,000 บาท ก่อน แนะนำออมสิน 10/2 ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (ไม่รวมลดหย่อนภาษี) สูงถึง 4.98% ลองศึกษาดูนะครับ ผมซื้อเต็มที่ 100,000 บาท เลย ซื้อต่อเนื่องกันเป็นกรมธรรม์ที่ 2 แล้ว

ส่วนที่ว่าจะซื้อ LTF เท่าไหร่ดี ก็ต้องขึ้นอยู่กับการวางแผนภาษีของเราครับ ส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับ LTF แค่พอให้ลดฐานภาษีลงมาเหลือ 10% เท่านั้น (ไม่ซื้อเยอะถ้าไม่จำเป็น เพราะเสี่ยงกับการขาดทุนจากหุ้น ผลประโยชน์ที่ได้จากการลดหย่อนภาษีเพียง 10% ผมมองว่าไม่คุ้ม โอกาสขาดทุนเกิน 10% จาก LTF มีสูงครับ ยิ่งตอนนี้หุ้น 1,100 กว่าจุดแล้ว ซื้อตอนนี้ก็ถือว่าต้นทุนมาแพงครับ)

และผมจะพิจารณาซื้อประกันก่อนให้เต็มวงเงินที่ลดหย่อนได้ เหลือเงินได้เท่าไหร่ (ที่เกินจาก 500000) ค่อยพิจารณาซื้อ LTF เพื่อตัดฐานลงมาให้เหลือเป็นฐาน 10% ครับ

[golfreeze]

ถ้าไม่ชอบเสี่ยง สามารถถือยาวจนอายุ 55 ปีได้ (ออมไว้ใช้ตอนเกษียณ) ก็ซื้อ RMF ครับ ; RMF มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกสินทรัพย์ที่จะเอาไปลงทุน เราสามารถเลือกลงทุนในตราสารหนี้หรือพันธบัตรก็ได้ (เสี่ยงต่ำ) , ทองคำ ก็ได้ , อสังหา ก็ได้ , หุ้น ก็ได้ ครับ สามารถสลับกองไปมาได้ หากเห็นว่ามีจังหวะที่เหมาะสม เช่น ถ้าเห็นว่าทองคำราคาตก เราก็สลับมาลงในกองทุนทองคำ (จะได้ต้นทุนถูกๆ) พอทองคำราคาขึ้นจนพอใจ เราก็สลับไปกองอื่น , ตราสารหนี้ เอาไว้เป็นที่พักเงิน , ช่วงไหนหุ้นตก เราสลับมาลงกองหุ้น (หุ้นตก = หุ้นราคาถูก ซื้อตอนถูกๆ = ต้นทุนมาต่ำ) พอหุ้นขึ้น เราก็ได้กำไร พอได้กำไรจนพอใจแล้ว หรือเห็นว่าแนวโน้มต่อไปหุ้นกำลังจะลง เราก็โยกสลับกองทุนมาพักไว้ในตราสารหนี้ก่อนได้ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าจังหวะดี เก็งถูก สามารถทำกำไรเป็นกอบเป็นกำได้ครับ

LTF ข้อเสียคือ ต้องเอาเงินไปลงทุนในหุ้นอย่างน้อย 65% (เขามีข้อบังคับไว้อย่างนี้ในกองทุนประเภท LTF) หุ้นขึ้นเรากำไร หุ้นตกเราขาดทุน ขึ้นกับกองทุนที่เราซื้อว่าจะเอาไปลงทุนในหุ้นตัวไหน

ถอนก่อน 5 ปีปฏิทินก็ไม่ได้ (ถอนก่อนถือว่าผิดเงื่อนไข ถูกปรับภาษีคืนพร้อมดอกเบี้ย) หุ้นตกก็ต้องทนถือต่อไป หากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในช่วง 3-5 ปีนี้ หุ้นตกจาก 1100 สมมุติเหลือ 550 จุด เราก็ขาดทุนประมาณ 50% ครับ (ไม่คุ้ม 10-20% ที่เราได้ลดหย่อนภาษี)

[golfreeze]

ปีนี้นโยบายบ้านหลังแรกได้ลดภาษี 10% ของราคาบ้านครับ สูงสุดไม่เกิน 5 แสนบาท (ทยอยลดหย่อนใน 5 ปี)

สมมุติซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท จะได้ลดภาษีรวม 5 แสนบาท แต่จะแบ่งลดภาษี 5 ปี ปีละ 1 แสนบาท ดังนั้นถ้าเพื่อน จขกท. เสียภาษี 73,000 บาท ก็จะไม่ต้องเสียภาษีเลย (นำยอด 1 แสนบาท มาหักตรงๆจากภาษีที่ต้องจ่ายได้เลย)

หรือถ้าจะให้คุ้ม เพื่อน จขกท. ต้องซื้อบ้านที่ราคา 3,650,000 บาท (ลดหย่อนได้ 365,000 ใน 5 ปี หรือ = 73,000 บาท / ปี ซึ่งพอดีกับภาษีที่ต้องจ่าย)

ก็จะไม่ต้องเสียภาษีเลยใน 5 ปี ^^
ลองวางแผนดูนะครับ จะช่วยประหยัดภาษีได้เยอะมาก

[golfreeze]

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ LimitBreak มากๆครับ

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2012/02/B11766295/B11766295.html

[golfreeze]

วิธี‘20 กฎ’ ลดภาษีบุคคลธรรมดา 1-4 (ต้น-จบ)

http://www.linkgfx.com/20t.html

[golfreeze]

ช่วยเรื่องภาษี กสิกร

https://k-expertmember.askkbank.com/Pages/Home.aspx

[golfreeze]

รัฐบาลประกาศถ้า บริจาคให้สถานศึกษาสามารถนำใบเสร็จมาลดหย่อนได้เป็น สองเท่า
“การหักลดหย่อน กรณีบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนการศึกษา
และหลักฐานการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนสองเท่า”


รายชื่อสถานศึกษาและวัด ลองดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://www.rd.go.th/publish/28654.0.html

1. ต้องเป็นการบริจาคให้กับสถานศึกษาตามรายชื่อสถานศึกษาที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศกำหนด และไม่เป็นการบริจาคเพื่อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ต่อผู้ใดโดยเฉพาะ
ตัวอย่างเช่น การจ่ายค่าเทอมของผู้มีเงินได้หรือบุตร การซื้อวัสดุอุปกรณ์ ตำราเรียน ของผู้มีเงินได้หรือบุตร หรือ ค่าเล่าเรียนพิเศษบุตร เป็นต้น

2. เงินที่บริจาคนำไปยกเว้นภาษีเงินได้ เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่าย แต่ต้องไม่เกินร้อยละสิบของเงินได้พึงประเมิน

3. การบริจาคให้แก่สถานศึกษา ต้องเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการ ดังต่อไปนี้
        3.1 จัดหาหรือจัดสร้างอาคาร อาคารพร้อมที่ดิน หรือที่ดิน ให้แก่ สถานศึกษาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษา
        3.2 จัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา แบบเรียน ตำรา หนังสือวิชาการ สื่อ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาตลอดจนวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กับการศึกษา
        3.3 จัดหาครู อาจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษา การประดิษฐ์ การพัฒนา การค้นคว้า หรือการวิจัย สำหรับนักเรียน นิสิต หรือ นักศึกษาของสถานศึกษา

4. ต้องมีหลักฐานจากสถานศึกษา เป็นใบเสร็จรับเงินของสถานศึกษาเท่านั้น โดย “ สถานศึกษาต้องระบุ คำว่า “เงินบริจาคเพื่อ.... 3.1, 3.2, 3.3 เพื่อ สนับสนุนการศึกษา ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ. 2547 ” ซึ่งให้เป็นส่วนกลางของสถานศึกษา นั้น

5. หากเป็นการบริจาคให้แก่สถานศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ ที่นอกเหนือจาก ข้อ 3.1 3.2 และ 3.3 ให้นำไปหักลดหย่อนได้ ตามมาตรา 47(7)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร

[golfreeze]

http://siamchart.com/fund-compare/RMF

[golfreeze]

ถ้ามีเงินได้เนื่องจากการขาย LTF ถือเป็นเงินได้มาตรา 40( ถือว่ามีเงินได้ที่ไม่ใช่ 40(1) เพียงอย่างเดียวต้องยื่น ภงด 90

ในกรณียื่นทางเน็ต แบบฟอร์ม ภงด.90 ใน tab เงินได้ 40( จะมีให้กรอกเงินค่าขายหน่วยลงทุนคืนให้กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) โดยจะแบ่งให้กรอกเป็น

1.  เงินที่ได้จากการขาย LTF ทั้งหมด
2.  ราคาทุน ช่องนี้ให้กรอกราคาทุนของ LTF ที่ขายในปีนั้น
3.  เงินส่วนต่างกรณีขายมากกว่าราคาทุน (กำไร) แบ่งเป็นสองส่วน กรณีที่เข้าเงื่อนไขครบ 2 ประการคือ ครบ 5 ปี และได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนทางภาษี ให้กรอกในช่องยกเว้น ส่วนกำไรที่ไม่เข้าเงื่อนไขครบ 2 ประการ กรอกในช่องไม่ยกเว้น

ถึงแม้จะมีเพียงเฉพาะส่วนของ LTF ที่ได้รับการยกเว้นเพียงอย่างเดียว ก็จะต้องยื่นแบบภงด.90 ครับ เพราะกฎหมายกำหนดไว้อย่างนั้น การยื่นแบบผิดประเภท ถึงแม้โทษจะไม่รุนแรง อาจเพียงแค่ต้องยื่นใหม่ให้ถูกต้อง ก็ทำให้เราเสียเวลา

นอกจากนี้ การยื่นแบบ ภงด.90 โดยการสำแดงรายได้ที่ได้จากการขาย LTF ยังเป็นการสำแดงรายได้ที่เราได้เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถใช้สิทธิ์ซื้อ LTF เพื่อลดหย่อนภาษีได้เพิ่มขึ้น (เพราะฐานรายได้เพิ่มขึ้น) ในปีภาษี นั้นครับ