วันนี้จะมาแนะนำทัวร์ไอซ์แลนด์ ครับผม เป็นของพี่ที่รู้จักกันมานานละ แกทำทัวร์ท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ครับ ก็ประมาณ 6-8 คน ที่จำนวนคนน้อยเพราะว่า เราเช่าเหมารถตู้ที่มีที่นั่ง 9 ที่นั่งครับ ปกติแล้วถ้ามีพวกสัมภาระด้วย ก็จะไม่แน่นแออัดจนเกินไป เดินทางสะดวกดี ถ้าใครสนใจก็ลองดูโปรแกรมได้เลยนะครับ หรือถ้าอยากเข้าไปชมในเว็บก็ http://www.roadtripexplorer.com/project/ทัวร์ไอซ์แลนด์/ เลยครับผม ทัวร์คุณภาพจริงๆครับ
ทัวร์ไอซ์แลนด์ ของที่นี่
- เที่ยวกลุ่มเล็ก ไม่เกินคณะละ 12 คน (หรือจัดกรุ๊ปส่วนตัวได้ตั้งแต่ 2 คน)
- ตรงไหนสวยจอดให้ถ่ายรูป
- ถ่ายรูปสะดวก มีเวลาให้โพสต์ให้เล็ง
- เที่ยวรอบใหญ่ เจาะลึกกว่า ที่เที่ยวเยอะกว่า
- พาคุณออกล่าแสงเหนือทุกคืนที่ฟ้าเปิด
รายละเอียดทัวร์ไอซ์แลนด์ 12 วัน จัดเต็มกันไป !!!
วันที่ 1 กรุงเทพ – โคเปนเฮเกน
22.00 น. พบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ Row xx Gate xx เช็คอินสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 950 (เที่ยวเวลา 00.50 น.) บินตรงสู่กรุงโคเปนฮาเก้น ประเทศเดนมาร์ก เที่ยวบินตรง ใช้เวลาเดินทางสู่เดนมาร์กประมาณ 10 ชั่วโมง
วันที่ 2 เรคยาวิก
7.30 น. ถึงสนามบินเดนมาร์ก ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ จากนั้นบินต่อสู่ประเทศ Icelnad ใช้เวลาบินประมาณ 3 ชั่วโมง ถึงเมืองเรคยาวิก ประเทศ ไอซ์แลนด์ รับสัมภาระ จากนั้นเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเรคยาวิก ชม โบสถ์กลางเมือง Hallgrimskirkja อันเป็นสัญลักษณ์แห่งเมือง ชม Hapa อันเป็น concert hall และ conference center ตั้งอยู่ริมอ่าว ถ่ายรูปกับ Sun Voyeger ปฏิมากรรมี่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
ค่ำ **คืนนี้พักที่เมือง เรคลาวิค**
วันที่ 3 Reykjavik – Þingvellir – Gullfoss – Geysir Kerio – Selfos
เช้า ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ ซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) อุทยานแห่งชาติแห่งแรก และได้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี 1789 ซิงเควลลิร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดทางด้านประวัติศาสตร์และทางด้านธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะเคริด ร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง
บ่าย ชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ (Golden Circle) ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงม้าที่หากินอยู่ตามธรรมชาติ สองข้างทาง พาท่านชม น้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ (Gullfoss) ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศนี้ และยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลก ที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง และลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 m
ชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อนหรือเกย์เซอร์ น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7-10 นาที เกิดจากน้ำในโพรงหินใต้ดิน ได้รับความร้อนจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก เมื่อถึงจุดเดือด จึงขับเคลื่อนน้ำในโพรงขึ้นมา ให้กลายเป็นน้ำพุร้อน
เยี่ยมชม ปากปล่องภูเขาไฟอายุกว่า 3,000 ปี บัดนี้ได้เกิดเป็นทะเลสาบขนาดย่อม เป็นที่น่ามหัศจรรย์ว่าระดับน้ำในทะเลสาบนี้มีระดับเท่ากับระดับน้ำทะเลด้านนอก ไม่ใช่แอ่งน้ำที่เกิดจากฝนแต่อย่างใด
ค่ำ **คืนนี้พักที่เมือง Selfoss**
วันที่ 4 Seljalansfoss – Skogarfoss – Dyrholaey – Vik – Skaftafell
เช้า เดินทางตามแนวชายฝั่ง ผ่านทุ่งลาวาขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันถูกปกคลุมด้วยมอสหนานุ่ม ดุจผืนพรมกว้างใหญ่ ในเส้นทางแสนสวย South Shore ประเทศไอซ์แลนด์ มีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิง ทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วย ทัศนียภาพสองข้างทางเว้นระยะไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ ฉากหลังเป็นภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 m เหนือระดับน้ำทะเลและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ผ่านการระเบิดมาแล้วถึง 18 ครั้งล่าสุดในปี 2000
แวะถ่ายรูปกับ น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalansfoss) มีความสูง 60 m อีกหนึ่ง Highlihgt น้ำตกแห่งนี้สามารถเดินเข้าไปด้านหลังได้ ซึ่งทำให้มุมมองแปลกตาและน่าค้นหามากขึ้น ชม น้ำตก สโกก้าฟอสส์ (Skogarfoss) ที่มวลน้ำขนาดใหญ่ตกมาจากหน้าผาสูง 62 m ความสวยงามของน้ำตกเกิดจากองค์ประกอบรอบๆ ของตัวน้ำตก และโตรกผาที่สอดประสานกันเป็นอย่างดี เรียกว่าถ่ายภาพอย่างไรก็ได้ออกมาสวยเสมอ
เดินทางไปต่อกันที่แหลม Dyrholaey (เดิมเรียกว่าเคปพอร์ตแลนด์โดยชาวอังกฤษ) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ จุดเด่นของที่นี่คือ หาดลาวาสีดำสนิท ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลโมตร ที่ริมผาจะมีปฏิมากรรมธรรมชาติ เป็นแหลมหินที่มีรูขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล มองกลับไปด้านหลังจะพบกับธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull glacier ถ่ายรูปเท่ห์ๆ กับหินบะซอลท์รูปร่างแปลกตา ลักษณะเฉพาะของถิ่นภูเขาไฟ เหมือนมีใครมาแกะสลักไว้
บ่าย เดินทางสู่เมือง VIK ชม trolls in Reynisdrangar ที่มีตำนานกล่าวขานว่าพวกปีศาจพยายามแอบลากเรือออกจากฝั่งของเมือง Vik แต่ถูกจับได้ โดยเทพแห่งแสง แดดในยามรุ่งสาง จึงถูกสาปให้กลายเป็นหินรูปทรงน่ากลัว ตั้งอยู่ในท้องทะเล ได้เวลาสมควร อำลาเมือง VIK เดินทางต่อสู่เขตอุทยานแห่งชาติ Skaftafel อันมีภูมิประเทศคล้ายคลึงกับเทือกเขา Alp เป็นเขตธารน้ำแข็งที่ก่อต่อขึ้นมาหลายพันปีจากอิทธิพลของการระเบิดของภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็ง ที่ทำให้เกิด Glacier floods
ค่ำ **คืนนี้เข้าพักใกล้เขตอุทยาน Skaftafel**
วันที่ 5 Skaftafell – Jokulsalon – Eglistadir
เช้า เตรียมตัวเดินเท้า ชม น้ำตก Svartifoss หรือ Black Waterfall ชมความอัศจรรยแห่งธรรมชาติที่รังสรร ความแปลกตาทางธรณีวิทยา (ระยะทาง 2.5 กม. เดินเท้าไปกลับ รวมถ่ายรูปประมาณ 2 ชั่วโมง) เดินทางต่อไปที่ โจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ที่นี่เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ปรากฏเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงปี 1934-1935 และธารน้ำแข็งก็ละลายมากขึ้น และเพิ่มพื้นที่มากขึ้นในทุกๆ ปี หากมาเที่ยวที่โจกุลซาลอนแห่งนี้ทุกคนจะได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพของก้อนน้ำแข็งสีฟ้าครามขนาดมหึมา ที่ละลายลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบน ลอยล่องอยู่เต็มทะเลสาบ แวะชมธารน้ำแข็งเรียกว่า VATNAJOKULL มีขนาด 8,300 ตร.กม. เท่ากับธารน้ำแข็งทั้งหมดในทวีปยุโรปรวมกัน และขนาดความหนามากที่สุดหนาประมาณ 1,000 เมตรใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรป เราสามารถมองเหนธารน้ำแข็งแบบอลังการได้อย่างใกล้ชิด
บ่าย มุ่งหน้าสู่ฝั่งตะวันออกของเกาะ Iceland พาท่านลัดเลาะตามฟยอร์ด หรือ แอ่งน้ำขนาดใหญ่ตามชายฝั่ง ที่เกิดจากการกัดกร่อนของธารน้ำแข็งในอดีต เดินทางสู่เมือง Eglistadir เมืองเอกแห่งใหม่ของ Iceland ตะวันออก
ค่ำ **คืนนี้พักที่เมือง Eglisstadir**
วันที่ 6 Eglisstadir – Dettisfoss – Krafla powerplant – Termal area – Myvatt
เช้า รับประทานอาหารเช้า ออกเดินทางข้าม Pass Modradalsfjallgurdar อันมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ตลอดเส้นทาง เราจะเห็นทัศนียภาพเป็นหุบเขาสีขาว สวยงาม แวะชมน้ำตก Dettifoss (เดินจากจุดจอดรถ 800 เมตร) อันเป็นสถานที่ถ่ายภาพยนต์เรื่อง Prometeus น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดในทวีปยุโรป ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajökull ตื่นตาตื่นใจกับความกว้างของชั้นน้ำตกที่กำลังไหลลงมา เป็นภาพที่สวยงามอย่างยิ่ง
บ่าย เดินทางกันต่อไปเยี่ยมชม สถานีพลังงาน Krafla เป็นสถานีพลังงานความร้อนใต้พิภพใหญ่ที่สุดของประเทศ ขนาด 60 เมกะวัตต์ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟ Krafla ในไอซ์แลนด์ และบริเวณโดยรอบที่จะสามารถเห็นบ่อน้ำพุ ชม Hverarondor Hverir อันเป็นทางออกของพลังงามความร้อนจากใต้พิภพ ผ่านชมทะเลสาบสีเทอควอยต์ที่มีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนพ่นควันฉุยตั้งอยู่เคียงข้าง
ค่ำ เดินทางเข้าพักที่เมือง Mývatn ซึ่งมีทะเลสาบที่เกิดจากการยุบตัวครั้งยิ่งใหญ่เมื่อกว่า 2,300 ปีมาแล้ว
วันที่ 7 Myvatt – Godafoss – Húsavík – Akureyri – Blonduos
เช้า ออกเดินทางไปเที่ยว น้ำตก Godafoss ได้รับฉายาว่า น้ำตกพระเจ้า “Waterfall of the Gods” ก่อนเดินทางต่อไป เมืองฮูซาฟิค (Husavik) ชมบ้านเรือนที่มี ภูมิทัศน์เหมือนฉากละคร ลักษณะบ้านเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็ก มีชั้นเดียว รูปแบบบ้านจะแตกต่างกันตามสไตล์และมีลักษณะเด่น คือ หลังคาสารพัดสี และล่องเรือชมปลาวาฬ (Whale Watching) ซึ่งคุณมีโอกาสเห็นวาฬมิงค์
บ่าย เดินทางสู่เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของ ประเทศไอซ์เเลนด์ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการทำประมง ชม โบสถ์อาคูเรย์รี่ (Akureyri Church) เป็นสัญญลักษณ์ของเมืองซึ่งโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถานปนิก Gudjon Samuelsson สร้างปี 1940 หน้าต่างกระจกสีกลางเหนือแท่นบูชาสวยงามมาก จากนั้นอิสระให้ท่านช็อปปิ้งบน ถนนคนเดินเกเรอโตรกาตา (Gerartogata)
ค่ำ **คืนนี้พักที่เมือง Blonduos**
วันที่ 8 Hvítserkur – Dinosour Rock – Kirkjufell
เช้า เดินทางสู่ Hvítserkur ที่ตั้งอยู่ในอ่าว Hunafloui นอกชายฝั่งทางเหนือของไอซ์แลนด์ เพื่อชมหินที่มีรูปทรงแปลก ที่มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ซึ่งดื่มน้ำทะเลเกาะกรีนแลนด์ นักวิจัยเชื่อว่าหิน 15 เมตรสูงนี้เป็นเศษของภูเขาไฟโบราณ จากการพังทลายของน้ำทะเลมีการกัดเซาะผ่านหลุมฐานรากจนกลายเป็นรุปร่างที่เราเห็น
บ่าย เดินทางสู่ Snafellsjokull ชมอีกหนึ่ง Landmark ของเกาะ Iceland ที่ Kirkjufell ภูเขาทรงหมวก และน้ำตก Kirkjufellsfoss
ค่ำ **คืนนี้พักที่เมือง Blonduos**
วันที่ 9 Snafellsjokull – Blueelagoon – Kef
เช้า รับแสงเช้าที่ Kirkjufell ก่อนออกเดินทางข้าม Pass Vatnaleid กลับสู่เมืองหลวง เรยาวิค
บ่าย ชมบลูลากูน (Blue Lagoon) หรือทะเลสาบสีฟ้า ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่ มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ในเขตลาวาใน Grindavik หากมาเที่ยวที่บ่อน้ำพุร้อนบลูลากูนแห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถลงไปแหวกว่าย นอนแช่ในบ่อน้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิความร้อนของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียสได้อย่างสบายๆ เกิดความรู้สึกผ่อนคลายได้ดี อีกทั้งตัวน้ำพร้อนอันบริสุทธิ์นี้ยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุมากมาย ว่ากันว่าช่วยรักษาโรคได้ด้วย ปล่อยอิสระให้ท่านอาบน้ำแร่ธรรมชาติผ่อนคลายไปกับ Stream & Sauna เพื่อการพักผ่อนตามอัธยาศัย (กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำไปด้วยครับ)(ค่าลงแช่น้ำไม่รวมในค่าทริป)
วันที่ 10 เรยาวิค-โคเปนเฮเก้น – Nyhavn – Amalianborg castle – Little mermaid
เช้าตรู่ สนามบินนานาชาติเคฟลาวิก ออกเดินทางสู่เมืองโคเปนเฮเก้น ถึงช่วงเที่ยงเที่ยวในเมืองโคเปนฮาเก้น เป็นเมืองหลวงของประเทศเดนมารก เมืองที่มีกลิ่นอายแห่งความรักในเทพนิยาย ถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรป เลยก็ว่าได้ เพราะถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ราวๆ คริสต์ศตวรรษที่ 10
บ่าย พาชม ท่าเรือ Nyhavn ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสีสัน มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ผับ บาร์ ตั้งอยู่สองข้างทาง พร้อมทั้งบ้านเรือนสไตล์แดนิช เต็มไปด้วยสีสันให้เก็บภาพความประทับใจกัน ชม Amalianborg castle พระราชวังที่ไว้สำหรับประทับช่วงฤดูหนาว ประกอบด้วยอาคารสี่หลังใหญ่ ล้อมรอบ พื้นที่ทรงแปดเหลี่ยม ตรงกลางด้านในนั้น ประดิษฐานอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้าของผู้ก่อตั้ง Amalienborg ของกษัตริย์ เฟรเดอริที่ 5 ไว้อีกด้วย ชม Rosenborg Castle ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วง ศตวรรษที่ 17 ปราสาททรงยอดแหลมสูงตระหง่าน ภายในมีพระราชบังลังก์ พร้อมสิงโตสลักยืนเฝ้าล้อมรอบสามตัว ถ่ายรูปกับ เงือกน้อย little mermaid สัญลักษณ์ของเมืองโอเปนฮาเก้น ที่กำลังนั่งรอเจ้าชายตามเทพนิยายอันเลื่องชื่อ ของนักเล่านิทานระดับโลกฮันส์คริสเตียน-แอนเดอร์สัน
ค่ำ **คืนนี้พักที่เมือง โคเป็นเฮเก้น**
วันที่ 11 โคเปเฮเกน – กรุงเทพ
สาย เตรียมตัวเดินทางไปสนามบินโคเปนเฮเก้น เชคอินสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 951 ออกเดินทางจากโคเปนเฮเก้นเวลา 14.00 น.
วันที่ 12 กรุงเทพ
เดินทางถึง กทม โดยสวัสดิภาพ